ปัจจุบันมีสัตว์มากมายหลายชนิดเข้ามาเพิ่มทางเลือกให้กับคนรักสัตว์รุ่นใหม่
ซึ่งส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ดังนั้น สัตว์เลี้ยงของพวกจึงต้องมีวิธีการเลี้ยงไม่ยุ่งยาก
และไม่ต้องการพื้นที่มากนัก แตกต่างไปจากสัตว์เลี้ยงพื้นฐาน เช่น สุนัข หรือแมว และหนึ่งในสัตว์เลี้ยงหน้าใหม่ที่ก้าวเข้ามาแบ่งปันความรักจากคนเลี้ยงสัตว์ไปไม่น้อยก็ได้แก่
เม่นแคระ หรือ African pygmy hedgehog
เม่นแคระ
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่มีหนามแหลมทั่วลำตัว แต่สามารถจับสัมผัสได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกสลัดขนใส่หากจับอย่างถูกวิธี
และมันไม่ต้องการการดูแลมากนัก อีกทั้งยังมีเสน่ห์เฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการขดตัวม้วนกลมอันเป็นเอกลักษณ์น่ารักโดดเด่น
ซึ่งเป็นการป้องกันตัวเองจากศัตรูนั่นเอง
อุปนิสัยของ เม่นแคระ
เม่นแคระ เป็นสัตว์สันโดษ ชอบอยู่ตัวเดียว และหวงถิ่น ดังนั้น ไม่แนะนำให้เลี้ยงรวมกัน
ไม่เช่นนั้น เม่นแคระ อาจกัดกัดจนเสียชีวิตได้ หากเลี้ยงมากกว่า 1 ตัว ต้องแยกพื้นที่ในการเลี้ยงดูออกจากกันอย่างชัดเจน
เม่นแคระ จะตื่นในเวลากลางคืน และนอนตอนกลางวัน กิจกรรมทุกอย่างจึงถูกกระทำตลอดคืน
เช่น เดินไปมาในกล่อง ยกถ้วยอาหารเล่น กัดกินอาหาร กินน้ำจากขวด ฯลฯ
เม่นแคระ ไม่ใช่สัตว์ที่มีนิสียชอบมาคลอเคลียกับผู้เลี้ยง และมันก็ไม่ฉลาดเหมือนสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอื่น
ๆ เช่น กระต่าย หรือแก๊สบี้
เม่นแคระ ที่มีขนแหลม ๆ ทั่วตัวนั้น อาจทำให้มือของคุณบาดเจ็บได้
หากจับไม่ถูกวิธี หรือทำให้เขาตกใจ หรือเม่นไม่มีความคุ้นเคยกับคุณ
เม่นแคระ มักจะกัดและเคี้ยววัตถุหรือสิ่งของแปลก ๆ ที่มันไม่กลิ่น
จนเกิดเป็นฟองน้ำลาย แล้วนำฟองน้ำลายมาแปะติดไว้ตามตัว เพื่อจดจำกลิ่น หรือปรับตัวเองให้มีกลิ่นเหมือนสภาพแวดล้อม
ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยตามปกติ ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรระมัดระวังอย่าให้ เม่นแคระ ไปกัด
หรือเคี้ยววัตถุมีพิษ
สีของเม่นแคระ
เม่นแคระแต่ละสีที่นิยมเลี้ยงในปัจจุบันมีหลากหลายสี
โดยแต่ละสีจะเห็นเด่นชัดในช่วงวัยที่ต่างกันและไม่แน่นอน และเม่นแคระแต่ละสีนั้นก็มีราคาซื้อขายตามท้องตลาดแตกต่างกันด้วย
เริ่มตั้งแต่ตัวละ 500 บาท จนถึงหลักพัน โดยสีที่ราคาสูงที่สุดคือ สีแอพริคอท ราคาตั้งแต่
1,500-2,000 บาทขึ้นไป
สีนอมอล-ขนหนามพาดด้วยสีดำ ผิวหนัง ตา จมูก หู มีสีดำ คล้ำ
สีช็อกโกแลต-หนามพาดด้วยสีน้ำตาลเข้ม หน้า ผิวหนัง จมูก หู สีน้ำตาล
ตาสีดำ
สีบราวน์-หนามพาดด้วยสีน้ำตาลอ่อน ตาสีดำ ส่วนอื่นเป็นสีน้ำตาลอ่อน
สีซินเนมอน-หนามพาดด้วยสีเทาน้ำตาล หน้าขาว ผิวหนังและหูสีชมพู
ตาดำ หรือดำอมแดง จมูกสีตับอ่อน
สีซินนิคอท-หนามพาดด้วยสีเทาอมส้ม หรือน้ำตาลอมส้ม ผิวหนัง หน้า
จมูก หูมีสีชมพู ตาดำ
สีแอพริคอท-หนามพาดสีส้ม หน้า ผิวหนัง จมูก หู มีสีชมพู ตาสีแดงเข้ม
หรือสีทับทิม
สีอัลบิโน่-หนามสีขาวล้วนทั้งเส้นไม่มีสีอื่นปน ตาสีแดงใส ส่วนอื่นมีสีชมพู
เม่นแคระ กลุ่มสีพิเศษ อาทิ...
เอ็กซ์-สโนว์แฟลก โดยรวมจะดูเหมือนกลุ่มสีพื้นข้างต้น แต่จะมีหนามสีขาวทั้งเส้น
ขึ้นแซมอยู่ทั่วทั้งตัว ประมาณ 30-70%
เอ็กซ์-ไวท์ โดยรวมจะดูเหมือนกลุ่มสีพื้นข้างต้น แต่จะมีหนามสีขาวทั้งเส้น
ขึ้นแซมอยู่ทั่วทั้งตัวมากกว่า 95% (มักเรียกกันง่ายๆ ว่า "ขาวตาดำ")
เอ็กซ์-พินโต โดยรวมจะดูเหมือนกลุ่มสีพื้นข้างต้น แต่จะมีหนามสีขาวทั้งเส้น
ขึ้นแซมอยู่เป็นกลุ่ม ๆ มีบริเวณ เป็นจุด ๆ
วิธีการเลี้ยงเม่นแคระ
สำหรับที่อยู่ของ
เม่นแคระ ควรมีอุปกรณ์พื้นฐาน ได้แก่ บ้านหรือโพรงเป็นมุมมืดไว้ให้เม่นได้นอนกลางวัน, ถ้วยสำหรับใส่อาหาร, ขวดน้ำ, ขี้เลื่อยสำหรับรองพื้นกล่อง เพื่อช่วยดูดซับของเสียจากการขับถ่ายของเม่นแคระ
(แนะนำให้ใช้เป็นแบบก้อนอัดแท่ง เพราะสะอาดและประหยัด), วิตามินผสมน้ำเพื่อช่วยเพิ่มเติมสารอาหารที่ขาดหายไป
ส่วนอาหารที่ใช้เลี้ยง
เม่นแคระ แนะนำให้ใช้ อาหารแมว ไม่แนะนำให้ใช้อาหารสุนัข เพราะว่าเม็ดใหญ่กว่า และมีความแข็งมากกว่าอาหารแมว
ทำให้เม่นแคระกัดกินลำบาก
อย่างไรก็ตาม
เม่นแคระ ไม่ใช่สัตว์ที่เลี้ยงยาก เพียงแต่นักเลี้ยงเม่นแคระ มือใหม่ ส่วนใหญ่มักเลี้ยงไม่รอด
เนื่องจากซื้อลูกเม่นที่ยังไม่หย่านมมาเลี้ยง เปอร์เซ็นต์รอดชีวิตจึงต่ำมาก ซึ่งวิธีการเลือกซื้อเม่นแคระ
มาเลี้ยงนั้น ให้สังเกตการเดิน โดย เม่นแคระ ที่หย่านมแล้วจะเดินได้ถนัด ไม่คลานเตาะแตะ
จมูกชื้น มีสุขภาพดี ผมก้อนำคำแนะนำสำหรับการเลี้ยงซื้อลูกเม่นแคระมาเลี้ยงกันแค่นี้นะครับเอาไว้พบกันใหม่ในฉบับต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น