กุ้งชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
ซึ่งจัดอยู่ในไฟลัมครัสเตเซียนเหมือนกับกุ้งก้ามกรามหรือกุ้งทะเลอื่นๆ
ถึงแม้หน้าตาดูไม่ค่อยเหมือนกุ้ง
แต่กลับมีรูปร่างเหมือนแมงดาทะเล แต่กุ้งไทรออปส์ เป็นสัตว์น้ำจืด จึงมีคนเรียกว่า "แมงดาทะเลน้ำจืด"
หรือ "กุ้งไดโนเสาร์"
เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงรูปร่างมาตั้งแต่ยุคไทรแอสสิก ประมาณ 220
ล้านปีมาแล้ว
จัดได้ว่าเป็นฟอสซิลที่มีชีวิตอีกจำพวกหนึ่งได้ที่เกิดในยุคไดโนเสาร์และยังสามารถปรับตัวเองให้มีชีวิตอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน
ไทรออปส์ มีลักษณะเด่น คือ มีตา 3 ตา
อันเป็นที่มาของชื่อ (tri
(ไทร) = สาม, ops (ออปส์)
= ตา) มีส่วนหางที่มีลักษณะเป็นง่ามคู่ที่ยาวออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน
เป็นสัตว์ที่มีวงจรชีวิตสั้นมาก คือ สามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียง 1-3
เดือน จึงเป็นสัตว์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยจะมีขนาดใหญ่ขึ้นถึงวันละ 2 เท่า ขนาดเมื่อโตเต็มที่โดยเฉลี่ยราว 1-3
นิ้ว
แต่ในบางชนิดหากได้รับอาหารและอุณหภูมิที่เหมาะสมอย่างเต็มที่อาจใหญ่ได้เท่ากับฝ่ามือมนุษย์
การหายใจ ของไทรออปส์อยู่ที่ขา ซึ่งมีมากถึง 35-71
คู่ ซึ่งใช้ทั้งว่ายน้ำและลำเลียงอาหารเข้าปาก และใช้ในการหายใจ
โดยที่เท้าของไทรออปส์มีอวัยวะพิเศษที่คล้ายเหงือก
เมื่อไทรออปส์เคลื่อนที่หรือว่ายน้ำไปมา
ก็จะได้รับออกซิเจนจากน้ำผ่านเข้าไปทางขานั่นเอง
พบแพร่กระจายอยู่ในหนองน้ำหรือบึงน้ำในทวีปอเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, ยุโรป, , แอฟริกา, ญี่ปุ่น, นิวแคลิโดเนีย, ออสเตรเลีย
และแอนตาร์กติกา ส่วนในเมืองไทย
การเลี้ยงสัตว์ชนิดนนี้เป็นการซื้อไข่มาเพาะฟักและเลี้ยงเก็บไข่ ปัจจุบันพบ 16
ชนิด โดยแบ่งออกเป็น สกุล Lepidurus
10 ชนิด และ Triops 6
ชนิด
ปัจจุบัน ไทรออปส์นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ด้วยความที่เป็นสัตว์แปลก
และเลี้ยงง่าย ซึ่งนิยมจะเลี้ยง ไทรออปส์ตั้งแต่ยังเป็นไข่
โดยจะทำการฟักไข่ของไทรออปส์ในตู้ปลา โดยจัดอุณหภูมิและสภาพน้ำที่เหมาะสม ไทรออปส์ก็สามารถฟักเป็นตัวได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมง การเลี้ยงนิยมให้อาหารพวกไส้เดือนน้ำ ลูกน้ำ
เป็นต้น
มีคนเสนอว่าให้เลี้ยงเพื่อใช้กำจัดลูกน้ำ
แต่ส่วนมากนิยมเพราะเป็นสัตว์ประหลาด เสมือนสัตว์โบราณมากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น